การสร้างแผนภูมิ Chart ด้วยคอลัมน์

สร้างตารางข้อมูลแล้วเรามาเริ่มสร้างแผนภูมิ
1. เริ่มจากแดรกเมาส์ครอบคลุมพื้นที่ข้อมูลในตารางทั้งหมด

2.คลิกแท็บ Insert
3. ให้เลือกประเภทของกราฟ ในที่นี้จะเลือกเป็นกราฟแท่ง จึงคลิก Column

4. เลือกลักษณะกราฟ โดยเลือกแผนภูมิคอลัมน์ 3 มิติ

5. สร้างกราฟขึ้นมาได้แล้ว

เปลี่ยนรูปแบบและขนาดตัวอักษร

1. นำเมาส์ไปคลิกบริเวณพื้นที่กราฟ

2. คลิกแท็บหน้าแรก (Home)

3. คลิกปุ่ม เลือกแบบอักษร

4. แล้วเลือกแบบอักษรที่ต้องการ

5. ตัวอักษรก็จะเปลี่ยนรูปแบบตามที่เลือกไว้

6. เลือกขนาดตัวอักษร

การเปลี่ยน ข้อมูลในกราฟ

เราสามารถเปลี่ยนข้อมูลในกราฟได้โดยคลิกเมาส์ขวาตรงบริเวณกราฟเพื่อแก้ไขข้อมูล แต่ในที่นี้เป็นการเลือกคลิกเพื่อเปลี่ยนข้อมูลSeries
1. คลิกเมาส์ทขวาที่ Series

2. เลือก Select Data

3. คลิกเลือก Series ที่ต้องการ

4. แล้วคลิก Edit

5. คลิก OK

6. ใส่ข้อมูลที่ต้องการ

7. คลิก OK

8. เมื่อเปลี่ยนข้อมูลครบแล้วให้คลิก OK

9. ข้อมูลเปลี่ยนแล้ว

การใส่ชื่อกราฟ

คลิกบริเวณพื้นที่กราฟ

1.  คลิกแท็บเค้าโครง (Layout)

2. คลิกปุ่ม Char Title

3. เลือกตำแหน่งการวางชื่อแผนภูมิ

4. กรอบชื่อแผนภูมิจะเพิ่มเข้ามา เราเปลี่ยนชื่อแผนภูมิใหม่

ขอบคุณข้อมูลจาก:
ภาษิต เครืองเนียม หนังสือคู่มือ Microsoft Office Excel 2007 ฉบับสมบูรณ์

การ Add on ฟังก์ชันที่แปลงค่าเงินบาทเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

ใน Excel มีฟังก์ชั่น BAHTTEXT ที่ช่วยในการแปลงตัวเลขเป็นคำอ่านภาษาไทย เช่น 15 แปลงเป็น “สิบห้าบาทถ้วน” นอกจากนี้ยังมี Add-in สำหรับแปลงตัวเลขเป็นคำอ่านภาษาอังกฤษได้อีกด้วย

งตัวเลขเป็นคำอ่านภาษาไทย

สามารถใช้ฟังก์ชั่น BAHTTEXT ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่มีมากับ Excel แปลงตัวเลขเป็นคำอ่านมีหน่วยเป็นบาทภาษาไทย

=BAHTTEXT(ตัวเลข)
ตัวเลข เป็นตัวเลขที่เราต้องการให้แปลงเป็นคำอ่าน อาจเป็นเซลล์อ้างอิงก็ได้

=BAHTTEXT(200)    => สองร้อยบาทถ้วน
=BAHTTEXT(125.50) => หนึ่งร้อยบาทห้าสิบสตางค์
=BAHTTEXT(-100)   => ลบหนึ่งร้อยบาทถ้วน
=BAHTTEXT(A1)     => หนึ่งร้อยบาทถ้วน (อ้างอิงถึงค่าในเซลล์ A1=100)ตัวอย่างการใช้ฟังก์ชัน BAHTTEXT 

แปลงตัวเลขเป็นคำอ่านภาษาอังกฤษ

ใน Excel ไม่มีฟังก์ชั่นที่แปลงตัวเลขเป็นคำอ่านภาษาอังกฤษได้ ต้องนำ Add-in มาติดตั้งเพิ่มเติมขเป็นคำอ่าษา

การติดตั้ง Add-in ใน Excel 2003 สามารถทำได้โดย เลือกเมนู Tools > Add-Ins จากนั้นกดปุ่ม Browse เพื่อไปยังโฟล์เดอร์ที่มีไฟล์ money.xla จากนั้นเลือกไฟล์นี้ ในหน้าต่าง Add-Ins ให้คลิกเลือก Convert Number to Text

การติดตั้ง Add-in ใน Excel 2007 สามารถทำได้โดยเลือก Office Button > Excel Options > Add-Ins เลือก Manage Excel Add-ins กด Go จากนั้นให้ Browse เพื่อไปยังโฟล์เดอร์ที่มีไฟล์ money.xlam จากนั้นเลือกไฟล์นี้ ในหน้าต่าง Add-Ins ให้คลิกเลือก Convert Number to Text

BahtOnly

ใช้แปลงตัวเลขเป็นคำอ่านภาษาอังกฤษ มีหน่วยเป็น Baht Only หรือ Satang

BahtOnly(ตัวเลข)
ตัวเลข เป็นตัวเลขที่เราต้องการให้แปลงเป็นคำอ่าน อาจเป็นเซลล์อ้างอิงก็ได้
ตัวอย่าง

หรือ

Moneyใช้แปลงตัวเลขเป็นคำอ่านภาษาอังกฤษ ตามหน่วย (สกุลเงิน) ที่กำหนด

Money(ตัวเลข, “หน่วยหลัก”, “หน่วยย่อย”)
ตัวเลข เป็นตัวเลขที่เราต้องการให้แปลงเป็นคำอ่าน อาจเป็นเซลล์อ้างอิงก็ได้
หน่วยย่อย ถ้าไม่มีให้ใส่ 0ตัวเลข

Money(200, “Dollar”, “Cent”)     => Two Hundred Dollars Only
Money(200, “Dollar”, 0)          => Two Hundred Dollars Only
Money(100.5, “Dollar”, “Cent”)   => One Hundred Dollars and Fifty Cents

ขอบคุณข้อมูลจาก: http://www.cleverdrive.net/414/convert-number-to-text/

ฟังก์ชัน Match

ส่งกลับค่าตำแหน่งรายการข้อมูลในอาร์เรย์ที่ตรงกับค่าที่ระบุตามลำดับข้องข้อมูลจากบนลงล่างของตารางข้อมูลที่อ้างอิง โดยส่งกลับมาเป็นหมายเลขของลำดับที่ตรงกับค่าที่นำไปค้นหา
รูปแบบ
Match(lookup_value, lookup_arrey, match_type)lookup_value  คือ ค่าที่ใช้ในการค้นหาค่าที่ต้องการในตาราง lookup_arreylookup_arrey  คือ ช่วงของเซลที่อยู่ติดกันซึ่งประกอบด้วยค่าการค้นหาที่เป็นไปได้จะต้องเป็นอาร์เรย์หรือการอ้างอิงอาร์เรย์match_type คือ ระบุตังเลข -1,0 หรือ 1 เพื่อระบุว่าจับคู่กับค่าของ lookup_value กับค่าใน lookup_arrey อย่างไร มี 3 แบบ

1.             ค่า 0 (exact match) จะค้นหาค่าแรกที่เท่ากับ lookup_value โดยค่าของ lookup_arrey  จะเรียงลำดับแบบใดก็ได้

2.             ค่า 1(less than) จะค้นหาค่ามากสุดที่น้อยกว่าหรือเท่ากับ lookup_value โดยอาร์เรย์จะต้องเรียงลำดับจากน้อยไปหามาก

3.             ค่า -1(greather than) จะค้นหาค่าน้อยสุดที่มากกว่าหรือเท่ากับค่าของ okup_value โดยจะเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยหากไม่ได้ค่าของ match_type จะหมายถึงใช้ค่า 1 เสมอ          

ตัวอย่าง

ขอบคุณข้อมูลจาก...
ดวงพร เกี๋ยงคำ หนังสือรวมสูตร&ฟังก์ชัน และ Macro&VBA Excel 2010

การคัดลอกสูตรแบบสัมพัทธ์และแบบสัมบูรณ์

วิธีอ้างถึงชื่อเดิมของเซลหรือ cell reference มีอยู่ 2 แบบ คือ แบบสัมพัทธ์ (relative reference) และแบบสัมบูรณ์(absolute reference) ซึ่งทั้งคู่นี้ให้ผลที่แตกต่างกันอย่างมากจึงต้องเลือกใช้ให้ถูกที่ การคัดลอกสูตรแบบสัมพัทธ์และแบบสัมบูรณ์มีดังนี้

1. การอ้างถึงเซลแบบสัมพัทธ์ (Relative Reference) จะใช้อ้างถึงเซล กรณีที่ต้องการให้เซลที่อ้างถึงเปลี่ยนตำแหน่ง ตามเซลที่คัดลอกหรือเคลื่อนที่ไป เช่น ต้องกาiคำนวณมูลค่าสินค้า ซึ่งต้องคำนวณจาก จำนวน(เล่ม)*ราคา(ขาย)

จะเห็นได้ว่าเมื่อคัดลอกสูตรลงไป เซลที่อ้างอิงจะเปลี่ยนหมายเลขบรรทัดตามจำนวนที่คัดลอกไปเพราะฉะนั้นการ Relative Reference จึงเหมาะกับการคัดลอก/ย้ายข้อมูลที่ต้องการให้เซลที่อ้างอิงเคลื่อนที่ตามทิศทางที่คัดลอกไป นับว่าอำนวยความสะดวกให้ผู้ปฏิบัติเป็นอย่างมากในการประหยัดเวลาในการพิมพ์สูตรการคำนวน

2. การอ้างถึงเซลแบบแบบสัมบูรณ์ (Absolute Reference)จะใช้อ้างถึงเซล กรณีที่ต้องการเซลที่อ้างถึงไม่ให้เปลี่ยนตำแหน่ง ตามเซลที่คัดลอก หรือเคลื่อนที่ไป  ชื่อประเภทนี้จะมีเครื่องหมาย $ อยู่ข้างหน้าชื่อคอลัมน์หรือแถวเสมอ ดังตารางตัวอย่าง

การใส่เครื่องหมาย $ ทำได้โดยการกด F4  เมื่อพิมพ์เครื่องหมาย = และตำแหน่งเซลแล้ว เช่น =B3 กดคีย์ F4 ครั้งที่ 1 จะได้ =$B$3 กดครั้งที่ 2 จะได้ B$3 กดครั้งที่ 3 จะได้ =$B3 และกดครั้งที่ 4 จะกลับมาเซลแบบเดิมคือ B3

ตัวอย่าง การคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา คำนวณจากจำนวนเงินบาท * ราคาขาย เมื่อคัดลอกสูตรไป อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่คำนวณจะต้องเป็นค่าเดิมที่เก็บอยู่ ณ เซลเดิม

****** Tip******

เทคนิคการสร้างสูตรคำนวณและก๊อปปี้ไปในตัว โดยใช้คำสั่งเพียงครั้งเดียว จะใช้กรณีที่เซลผลลัพธ์นั้นมีสูตรในการคำนณเหมือนกัน เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาใช้คำสั่งหลายรอบ

ขอบคุณข้อมูลจาก..
ดวงพร เกี๋ยงคำ และ วิภา เพิ่มทรัพย์ หนังสือคู่มือ Microsoft Office Excel 2003